จุดเริ่มต้นของความพ่ายแพ้หนแรก (2016)

17 มกราคม 2016 คือวันที่ ยูไนเต็ด เอาชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 จากประตูของ เวย์น รูนีย์ ที่ซ้ำลูกโหม่งของ มารูยาน เฟลไลนี เข้าประตูไป เกมนั้นทำให้ทีมของ ฟาน กัล ขึ้นที่ 5 แต่สุดท้ายจบฤดูกาลเพียงอันดับ 5 เช่นกัน และกุนซือชาวดัตช์ก็ถูกปลดหลังคว้าแชมป์เอฟเอคัพในเดือนพฤษภาคม

ยุคมูรินโญ่ – เกมอุดเต็มรูปแบบ

ทั้งในฤดูกาล 2016-17 และ 2017-18 โชเซ่ มูรินโญ่ พาทีมบุกเสมอ 0-0 สองปีติด แม้จะถูกวิจารณ์ว่าเล่นเกมรับจนแทบไม่มีโอกาสยิง แต่กุนซือโปรตุกีสยังมองว่าเป็น “ความสำเร็จเชิงแท็คติก” โดยเฉพาะเกมปี 2016 ที่ยูไนเต็ดครองบอลเพียง 35% ต่ำสุดในประวัติศาสตร์สโมสร

จุดแตกหักของมูรินโญ่ (2018)

เดือนธันวาคม 2018 ยูไนเต็ดพ่าย ลิเวอร์พูล 1-3 จากสองประตูของ เซอร์ดาน ชากิรี ที่ลงสำรองในครึ่งหลัง เกมนี้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญ เพราะอีกสองวันต่อมา มูรินโญ่ ถูกปลดจากตำแหน่ง

ยุคโซลชาร์ – มีดีแต่ไม่ถึง

ในปี 2020 ลิเวอร์พูลชนะ 2-0 จากลูกโขกของ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และการสวนกลับของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งช่วยให้ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เดินหน้าสู่แชมป์ลีกในรอบ 30 ปี ส่วนปี 2021 โซลชาร์พาทีมที่ตอนนั้นเป็น “จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก” มาเสมอ 0-0 แต่สุดท้ายจบฤดูกาลเป็นอันดับ 2 ตามหลังแมนฯ ซิตี้ 12 แต้ม

ความอับอายภายใต้รังนิคและเทน ฮาก

ปี 2022 ลิเวอร์พูลถล่ม ยูไนเต็ด 4-0 หลังจากก่อนหน้านั้นบุกชนะแบบยับเยิน 5-0 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถือเป็นจุดต่ำสุดในยุค ราล์ฟ รังนิค ก่อนที่ เอริก เทน ฮาก จะเข้ามาคุมทีมในภายหลัง
ปีต่อมา (2023) ความพ่ายแพ้ยิ่งหนักหน่วงกว่าเดิมเมื่อ ยูไนเต็ด ถูกถล่ม 7-0 — เกมที่ คล็อปป์ บรรยายว่า “สุดยอดทั้งการเคลื่อนที่และการทำลายล้าง” ขณะที่เทน ฮากเรียกฟอร์มลูกทีมว่า “ไม่เป็นมืออาชีพอย่างยิ่ง”

เสมอแต่ไม่ชนะ (2023–2025)

แม้ในเดือนธันวาคม 2023 ยูไนเต็ดจะยันเสมอ 0-0 ต่อหน้าผู้ชมกว่า 57,000 คนในแอนฟิลด์ แต่ก็ไม่อาจลบล้างความเจ็บปวดจากอดีตได้ จนกระทั่งในเดือนมกราคม 2025 อโมริมพาทีมบุกเสมอ 2-2 ในเกมที่สูสีที่สุดในรอบหลายปี โดยมี ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ อาหมัด ดิยัลโล่ ทำประตูให้ทีม

อย่างไรก็ดี ผลเสมอนั้นยังไม่เพียงพอที่จะหยุด “ทศวรรษแห่งความสิ้นหวัง” ของปีศาจแดงในถิ่นคู่อริได้ เพราะชัยชนะครั้งล่าสุดยังคงต้องย้อนกลับไปกว่า 9 ปีเต็ม — วันที่แฟนยูไนเต็ดทุกคนยังคงรอคอยให้หวนกลับมาอีกครั้ง

สถิติชี้ชัด
แมนฯ ยูไนเต็ดไม่ชนะที่แอนฟิลด์ในทุกรายการนับตั้งแต่ปี 2016 รวมแล้ว 9 นัด (เสมอ 5 แพ้ 4) และเสียไปถึง 20 ประตู